รวมสิ่งที่น่าสนใจหลังลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือเบรนท์ฟอร์ดได้สำเร็จ
ช่วงนี้สโมสรลิเวอร์พูลเริ่มกลับมาฟอร์มดีอีกครั้งหลังจากที่เริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีสักเท่าไหร่แถมผลงานยังย่ำแย่มาจนถึงช่วงปลายฤดูกาลอีกต่างหาก แม้ว่าตอนนี้เวลาที่เหลือให้แก้ตัวอาจจะน้อยลงทุกทีแต่พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นพยายามอย่างเต็มที่ในการเก็บ 3 แต้มและหวังจะขึ้นไปครองตำแหน่ง TOP 4 บนตารางพรีเมียร์ลีกให้สำเร็จเพื่อคว้าโควตาในการเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกในฤดูกาลถัดไป แม้ว่ามันอาจจะยังไกลจากความฝันแต่ล่าสุดที่พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะเหนือเบรนท์ฟอร์ดได้สำเร็จไปด้วยคะแนน 1 ประตูต่อ 0 ก็นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีเช่นเดียวกัน ตอนนี้พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกได้ติดต่อกัน 6 นัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
การสลับตำแหน่ง การแข่งขันในครั้งนี้กุนซือได้มีการเปลี่ยนตัวนักเตะตัวจริงถึง 3 รายจากการแข่งขันที่สามารถคว้าชัยชนะเหนือฟูแล่มได้สำเร็จไปด้วยคะแนน 1 ประตูต่อ 0 โดยเลือกใช้โคดี้ กัคโป แอนดรู โรเบิร์ตสัน และดิโอโก้ โชต้าลงสนาม ทำให้นักเตะ 3 คนในการแข่งขันนัดพบกับฟูแล่มอย่างจอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลุยส์ ดิอาสและคอสตาส ซิมิคาสต้องไปนั่งรอที่ข้างสนามแทน ส่วนคนที่รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมคือกองหลังอย่างเฟอร์กิล ฟาน ไดค์
ประตูที่ 100 ของ KING OF EGYPT การแข่งขันในครั้งนี้ลิเวอร์พูลสามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จด้วยประตูของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ก็ว่าได้ แม้ว่านักเตะกองหน้าคนสำคัญของลิเวอร์พูลคู่นี้จะเท้าบอร์ดมานานหลายเดือนแถมผลงานก็ยังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนภายในทีมค่อนข้างเยอะ แต่ล่าสุดในการแข่งขันครั้งนี้เขาสามารถทำประตูที่ 100 ในสนามแอนฟิลด์ได้สำเร็จอย่างงดงามจากการลงแข่งขันไปทั้งหมด 144 นัด และยังเป็นการสร้างสถิติทำ 30 ประตูในการแข่งขันทุกรายการติดต่อกันมา 3 ฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
คะแนนไม่สะท้อนรูปแบบเกม การแข่งขันในครั้งนี้พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะไปได้ด้วยคะแนน 1 ประตูต่อ 0 เทียบเท่ากับการแข่งขันนัดพบกับฟูแล่มในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับเลยว่ารูปเกมนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะเบรนท์ฟอร์ดไม่ได้สร้างความยากลำบากในการคว้าชัยชนะให้กับลิเวอร์พูลสักเท่าไหร่ เริ่มต้นมาเพียงแค่ 13 นาทีลิเวอร์พูลก็สามารถขึ้นนำได้สำเร็จ แม้ว่าจะยังมีเวลาในการทวงประตูคืนอีกหลายนาทีแต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถกดดันทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูลได้อยู่ดี และมันก็ยิ่งแสดงให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมไปอีกเกี่ยวกับสถิติที่ว่าหากลิเวอร์พูลสามารถทำคะแนนนำคู่แข่งได้ก่อนในช่วงครึ่งแรกพวกเขาจะไม่แพ้ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกมาเป็นจำนวนมากกว่า 123 นัดอีกด้วย
การขึ้นสู่ TOP 4 ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่าความฝันที่ลิเวอร์พูลจะสามารถขึ้นสู่อันดับ TOP 4 บนตารางให้สำเร็จเพื่อคว้าโควตาเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกในฤดูกาลหน้านั้นยังเป็นฝันที่ค่อนข้างไกล เชื่อว่าหลังจากนี้ฟอร์มของพวกเขาจะไม่แผ่วลงอีกอย่างแน่นอนแต่ถึงอย่างนั้นหากแมนยูสามารถเร่งเครื่องได้ก็จะยิ่งทำคะแนนนำหน้าไปอีกแม้ว่าตอนนี้จะมีคะแนนนำอยู่เพียงแค่ 1 แต้มก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่แฟนบอลลิเวอร์พูลต้องทำในตอนนี้ไม่ใช่แค่การเคลียร์พวกเขาอย่างเดียวแต่ยังต้องเป็นกองแช่งแมนยูอีกด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น